วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554

ฉันเป็นลูกชาวนา(กลอนแรกที่เป็นครูของแดงคนดี)








ฉันเป็นลูกชาวนา
อยุธยาบ้านเกิดกำเนิดฉัน
เลี้ยงวัวควายไถนาสารพัน
เกี่ยว ข้าวนั่นทำมาทุกท่าที

ในวัยเด็กเลี้ยงควายตามชายทุ่ง
ขี่ควายมุ่ง กินหญ้าไปในวิถี
ควายเดินเลาะเล็มหญ้าประดามี
ส่วนฉันนี้ร้องเพลง บรรเลงใจ

ถึงแดดร้อนสู้ทนบนหลังควาย
ไม่แหนงหน่ายหลีกลี้หนีไปไหน
เป็น หน้าที่ประจำต้องทำไป
แบ่งเบาให้พ่อได้พักเป็นหลักมี

พอใกล้เย็น ตะวันลอยคล้อยลงต่ำ
ขี่ควายนำลงอาบน้ำตามวิถี
ในลำคลองหนองบึงที่พึง มี
ช่วยขัดสีให้ผิวควายสบายตัว

อาบน้ำควายเสร็จพลันไม่ทันช้า
ไล่ ควายพาผึ่งแดดก่อนตอนสลัว
ลงเล่นน้ำคึกคักไม่ยักกลัว
เริ่มมืดมัวขึ้น จากน้ำใกล้ค่ำลง

ขี่หลังควายมุ่งหน้าพากลับบ้าน
ไม่ช้านานถึง เรือนไม่เชือนหลง
นำเข้าคอกบอกลากันทุกวันคง
สุมไฟตรงข้างคอกควายไว้ ไล่ยุง

เสร็จภารกิจที่ทำนำกำหนด
พอเปลื้องปลดงานพ่อแม่ที่แกยุ่ง
ช่วย เลี้ยงควายให้พ่อพอพยุง
เสริมบำรุงสืบสานงานครอบครัว

พอโตขึ้นฉัน ไปช่วยไถนา
หว่านข้าวกล้ากลางแดดแผดเหนือหัว
เช้าจรดค่ำทำไปไม่เคย กลัว
เหงื่อโทรมตัวเหนื่อยเหน็ดจึงเสร็จงาน

จึงรู้ว่ากว่าได้ข้าว ยุ่งยาวนั่น
ทำหลายขั้นตอนมีที่ขับขาน
ชาวนาเหนื่อยตรากตรำกรำหนักงาน
ทำ นาหว่านขั้นตอนมีวิธีการ

เริ่มไถดะกันก่อนขั้นตอนแรก
ให้ดินแยก แตกห่างระหว่างผาล
เพื่อตากดินให้ร่วนดีมีหลักการ
ปล่อยทิ้งผ่านครึ่ง เดือนจึงเยือนมา

ครบกำหนดไถแปรกลับสลับเปลี่ยน
หมุนดินเวียน พลิกกลับสลับหนา
ล่างขึ้นบนบนลงล่างกลับทางพา
ปล่อยอีกคราสิบห้าวัน ตามครรลอง

ได้เวลาหว่านข้าวปลูกถูกคำรบ
ไถหว่านกลบเมล็ดข้าวอีก คราวของ
เป็นอันเสร็จไถหว่านผ่านทำนอง
ตามครรลองทำนาหว่านอีกวานวัน

รอ เวลาข้าวงอกงามยามถูกฝน
แทงยอดพ้นผ่านดินไม่สิ้นสรรค์
จนเติบโตโผล่ รวงอีกช่วงพลัน
รีบรับขวัญแม่โพสพให้ครบการ

พอข้าวแก่เก็บเกี่ยว ด้วยเคียวคม
ก้าวเดินก้มเกี่ยวข้าวอยู่ฉาวฉาน
มือกำข้าวเคียวเกี่ยว เหนี่ยวรั้งพาน
ข้าวถูกฝานขาดคมเคียวที่เกี่ยวดึง

แล้ววางกองที่ ละกำทำเป็นราย
แผ่ขยายตามทางที่วางถึง
เกี่ยวซ้ายขวารุดหน้าพาตะบึง
ไม่ ช้าจึงเกี่ยวข้าวเสร็จสำเร็จงาน

เสร็จเกี่ยวข้าวตากข้าวอีกคราวหน
พอ แห้งจนได้ที่นับจึงขับขาน
หอบข้าวมัดรัดฟ่อนไม่หย่อนยาน
นำไม้คานหาบ คอนข้าวฟ่อนกอง

ได้เวลานำเข้าลานไม่นานเนิ่น
ใช้ควายเดินลากล้อขน ผลสนอง
เข้าลานเก็บเรียงไว้ให้เป็นกอง
รอจับจองนวดข้าวกันนั่นอีกที

นัด ลงแขกพร้อมกันในวันไหน
หลายลานไปช่วยกันขมันขมี
จนแล้วเสร็จเย็นค่ำ ย่ำราตรี
สิ้นวิถีทำนาข้าวอีกคราวลง

ชีวิตฉันผ่านมาหมดจดจำเห็น
ทำ นาเป็นทุกขั้นมั่นประสงค์
ผ่านร้อนหนาวเหนื่อยยากลำบากครง
ไม่ลืมหลง พงษ์เผ่า...ลูกชาวนา

vinitaya
11/10/2549



เป็นบทกลอนของครูวินิตายา

 ที่แดงได้อ่านแล้วทำให้รักในการพยายามเขียนบทกลอน

ขอบคุณครูวิ..ขอบคุณพี่ชายคนดี..

ที่ให้สิ่งที่ดีกับแดงมาเสมอ...ตลอดเวลา และไม่เคยทิ้งน้องไปไหน

กราบครูสำนึกในพระคุณ...และ คิดถึงบทกลอนครูเสมอมา


1 ความคิดเห็น:

  1. ยินดีด้วย

    บังเอินพบบทกลอนครั้งก่อนเก่า
    เคยแต่งเล่าชีวิตตนแต่หนก่อน
    ฉันเป็นลูกชาวนาให้อาวรณ์
    ถึงกาลก่อนเคยประชันกันสองเรา

    เขียนบทกลอนหยอกเย้าเราน้องพี
    มาวันนี้ได้แอบอ่านผลงานเจ้า
    แดงร้อยเรียงถ้อยวลีดีไม่เบา
    ทั้วบทเศร้าบทหวานงานกวี

    อ่านไพเราะเพราะพริ้งเสียยิ่งนัก
    เห็นประจักษ์ชัดแจ้งแดงของพี่
    เขียนถ้อยคำร้อยรสบทกวี
    ได้แสนดีมากนักประจัดษ์ตา

    พี่ภูมิใจในน้องเจ้าที่เฝ้ารัก
    เขียนทอถักถ้อยคำนำคุณค่า
    บอกเล่าเรื่องที่เกิดกำเนิดมา
    เป็นกวีมีคุณค่าน่าชื่นใจ

    ยินดีด้วยน้องแดงด้วยแรงจิต
    จงยืนหยัดเขียนคิดขับขานไข
    ร้อยเรียงคำนำอักษรสุนทรไป
    ให้ยิ่งใหญ่สมจิตที่คิดเทอญ

    ตอบลบ